Tuesday, February 28, 2017

ทำกันขนาดนี้หรือ



ทำกันขนาดนี้หรือ

        เมื่อเช้าผู้เขียนเห็นภาพและข้อความหนึ่งที่ทำให้ถึงกับอึ้ง และสลดใจ บอกตรงๆว่า มันจุกเข้าไปในอก เดี๋ยวนี้คนไทยด้วยกันทำกันขนาดนี้เลยหรือ




        งานที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับคนไทย คือ งานศพ ซึ่งญาติของผู้ตาย จะตั้งใจทำให้ดีที่สุด จะมีการตั้งศพไว้บำเพ็ญกุศลหลายวัน เพื่อให้ญาติพี่น้องที่อยู่ไกลมากราบขอขมาหรือเพื่อระลึกถึงความดีของผู้วายชนม์



       แต่สำหรับลุงอนวัช ผู้พลีชีพเพื่อต่อต้านความอยุติธรรม กลับถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้ามาจัดการทุกอย่างโดยไม่ได้คำนึงถึงจิตใจของญาติพี่น้องของลุงเลย สวดอภิธรรมยังไม่ครบ 3 คืนด้วยซ้ำ แถมมาเร่งให้เผาตั้งแต่บ่ายสอง



        อยากรู้จริง ๆว่าจิตใจของ "คน" พวกนี้ทำด้วยอะไร สักวันหากถูกกระทำบ้างจะเป็นไง ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยด้วยกันแท้ ๆ ยังทำกันลงคอ



ถามจริง ในใจมีคำว่า "เมตตา" เหลืออยู่บ้างไหม



อนาคาริก
03/01/17

Monday, February 27, 2017

โจรใต้ตายแน่



โจรใต้ตายแน่

        เมื่อเช้าผู้เขียนได้อ่านข่าว พาดหัวว่า

        “นราธิวาส – กลุ่มโจรใต้บุก อบต.โฆษิต จับ จนท.มัด จุดไฟเผาอาคาร”

 

       เมื่ออ่านจบผู้เขียนก็นึกภาพเลยว่า งานนี้โจรใต้คิดผิดแล้ว เพราะนายกฯท่านเอาจริงแน่ เนื่องจากท่านมี ม. 44 อยู่ในมือ สามารถสั่งการอะไรได้เต็มที่ ก็ขนาดพระชราที่อาพาธ แล้วไม่สามารถไปตามหมายเรียกได้ ยังออกหมายจับ 

       หรือพูดง่าย ๆ ว่า แค่การขัดหมาย ท่านก็ยังสามารถสั่งให้เอากำลังถึง 5,000 นาย ไปล้อมวัด สั่งพระและคนในวัดให้ออกจากวัดสั่งห้ามพระและคนจากภายนอกเข้ามาภายในวัดได้ 



       แล้วนี่กระทำการอุกอาจ เผาทั้งอาคาร เผาทั้งรถ ชายชาติทหารอย่างท่านคงยอมไม่ได้แน่


        ก็คงติดตามดูกันต่อไปว่า ท่านจะเก่งกับโจรใต้เหมือนกับที่เก่งกับไล่จับพระชราอาพาธหรือไม่?





อนาคาริก
02/28/17

สงสารทหารตำรวจจัง



สงสารทหารตำรวจจัง


        ผู้เขียนเฝ้าดูความเป็นไปของการปฏิบัติการที่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจเข้ามาล้อมวัดพระธรรมกายตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ดู ๆ ไปแล้วก็รู้สึกสงสารทหาร ตำรวจ

จะไม่สงสารได้อย่างไร



        ที่พัก ที่หลับที่นอน ก็ไม่แน่นอน มีเครื่องนอนไม่กี่ชิ้น ต้องทนตากยุง ทนหนาว


        อาหารการกิน ก็กินไม่อิ่มท้อง หักจากเบี้ยเลี้ยง ราคาก็สูงกว่าท้องตลาด แถมข้าวบูดซะอีก


        เสี่ยงต่อบาปกรรม เพราะต้องมาขัดขวางไม่ให้พระเณรเข้าวัด


        ที่รับกรรมเต็ม ๆ ก็คือ การขัดขวางพระเณรทำให้ไปสอบบาลีไม่ได้ ภพชาติต่อไป จะหาความฉลาดมาจากไหนก็ไม่รู้


       ทำงานเหน็ดเหนื่อย ถูกหัวหน้าที่อยู่สุขสบายเอาเปรียบอีก

       ว่าไปแล้ว จะว่าเสี่ยงก็เสี่ยง ไม่ใช่ภัยจากพระเณร แต่จากฝ่ายที่ไม่ชอบใจก็มีอยู่

       ออกมาทำงานนอกบ้านหลายวัน ลูกเมียที่บ้านจะเป็นไงก็ไม่รู้

       นี่หากมีเหตุสุดวิสัยอะไรเกิดขึ้น คนที่สั่งจะมารับผิดชอบด้วยไหม

น่าสงสารนะ ว่าไหม?




อนาคาริก
02/27/17


Sunday, February 26, 2017

เล่นใหญ่ เลิกยาก



เล่นใหญ่...เลิกยาก


        ผู้เขียนมองปรากฏการณ์ทำลายพระพุทธศาสนาครั้งนี้ด้วยใจที่นิ่งมาก เพราะมองภาพที่เกิดขึ้นแบบเข้าใจสภาวธรรม

        คนวางแผนฝ่ายรัฐ ไม่ธรรมดา ขอยกนิ้วให้ ส่วนว่าชีวิตหลังความตายจะเป็นไงก็ค่อยไปเจอเองนะ อันนี้ช่วยไม่ได้จริง ๆ 


        ที่ยกนิ้วให้นี่ก็ตั้งแต่การวางแผน 

        ๑. ให้วัดพระธรรมกายโดดเดี่ยว เพื่อจะได้ไม่มีกำลังเสริม แม้สงฆ์ทั้งแผ่นดินเห็นปัญหาก็ได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ 

        ๒. ใช้กฎหมายปกติที่มีอยู่ในมือ เล่นงานทุกทาง โดยไม่สนใจว่าจะถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่

        ๓. ใช้กฎหมายพิเศษแม้จะขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อเป็นตัวเร่งให้แผนงานบรรลุผลเร็วขึ้น


        ๔. ระดมสรรพกำลังเข้ามาบีบเพื่อให้แผนสำเร็จโดยไม่สนใจว่า นี่คือ วัดในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่โจรผู้ร้ายที่ไหน อ้อ ลืมไป ถ้าเป็นโจรผู้ร้าย คงไม่กล้าใช้วิธีนี้


        ๕. ระดมงบประมาณมหาศาล ทั้งเบี้ยเลี้ยง ค่ายานพาหนะ ค่าอาหาร เฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า ๕ ล้านบาท

ฯลฯ

        ทั้งหมดนี้ทำเพื่อล้อมจับพระชรา ที่ไปตามหมายเรียกไม่ได้ เพียงเพราะอาพาธอยู่


เล่นใหญ่ขนาดนี้ ท่าจะหยุดยากแล้วสินะ





อนาคาริก
02/27/17

ยังไม่รู้ตัวอีก



ยังไม่รู้ตัวอีก

        เมื่อตอนยังเด็ก เวลาทำอะไรผิด ก่อนที่คุณพ่อของผู้เขียนจะลงโทษ จะถามก่อนว่า รู้ตัวไหมว่าทำผิดอะไร เมื่อยอมรับ จึงจะกำหนดบทลงโทษ เฆี่ยนกี่ทีก็ว่ากันไป ต่อรองได้บ้างตามสมควร

        เมื่อไม่นานมานี้ ท่านนายกฯ ได้ออกมาตั้งคำถามดังในภาพ



        ก็แสดงว่า ท่านยังไม่ทราบว่าท่านทำผิดอะไร คนเดือดร้อนแค่ไหน

        ก็ขอตอบท่านคร่าว ๆ แล้วกันเนอะ

        ๑. ท่านมาฉีกรัฐธรรมนูญนี่ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้

        ๒. ตั้งแต่ท่านเข้ามานี่ ทำให้ชาวสวนยางแทบจะไม่มีกินกันแล้ว ราคายางจาก กิโลละ ๑๒๐ บาท ก็เหลือเพียง ๓ กิโล ๑๐๐ บาท

        ๓. ภาพรวมของเศรษฐกิจตกต่ำ แทบไม่มีใครมาค้าขาย มาลงทุนด้วย พ่อค้า แม่ขายทั้งหลาย ทั้งกลุ้ม ทั้งเครียด จะแย่กันไปหมดทั้งประเทศแล้ว

        ๔. เยาวชนของชาติ จะเสียคน เพราะติดนิสัย มีอะไรก็จะโทษคนอื่นตามผู้นำกันเป็นแถวแล้ว

        ๕.​ ไม่มียุคไหน สมัยไหน ที่อาณาจักรจะสร้างความแตกแยกกับศาสนจักร เท่ากับรัฐบาลของท่านอีกแล้ว

        เอาแค่นี้ก่อนเนอะ แค่นี้ก็แย่แล้ว หากเป็นคนที่มีจิตสำนึก ก็คงจะเปิดโอกาสให้คนอื่นแล้วหล่ะ

        อ้อ ลืมไป เดี๋ยวท่านก็โทษว่า เป็นความผิดของรัฐบาลก่อนอีกสินะ





อนาคาริกา

02/26/17


Saturday, February 25, 2017

วัดสำหรับพระ...จริงหรือ?



วัดสำหรับพระ...จริงหรือ?


        ด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทำให้ปู่ย่าตายายผู้รักษาแผ่นดินไทยด้วยชีวิต พากันอุทิศที่ดินที่ตนมีอยู่เพื่อสร้างวัดไว้ใช้ในการสั่งสมบุญ สั่งสมบารมี 

        ก่อนวันที่จะถวายก็ตั้งใจนุ่งขาว ห่มขาว กลั่นตัวเองให้ใส เตรียมกาย วาจา ใจ ให้เหมาะสมต่อการเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่


        เมื่อถึงวันที่ถวาย ก็น้อมจิตให้เป็นกุศล เปล่งเสียงออกจากใจที่กลั่นไว้ดีแล้วว่า

        “ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์จงรับทราบ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอมอบถวายพื้นที่นี้ พร้อมกับของบริวารแก่สงฆ์ เพื่อประโยชน์เป็นสถานที่สร้างวัด สำหรับพระภิกษุสงฆ์ผู้อยู่ในทิศทั้ง ๔ ทั้งที่มาแล้วและยังมิได้มา

         ขออานิสงส์แห่งการถวายพื้นที่ เพื่อประโยชน์เป็นสถานที่สร้างวัด สำหรับพระภิกษุสงฆ์ผู้อยู่ในทิศทั้ง ๔ ทั้งที่มาแล้วและยังมิได้มานี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย จงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย แก่ปิยชนทั้งหลาย มีมารดาบิดาเป็นต้นด้วย ตลอดกาลนาน เทอญ ฯ






        ณ วันนี้ ลูกหลานซึ่งไม่เคยลำบากในการสร้างชาติมาเยี่ยงบรรพบุรุษ กลับกีดกั้นมิให้พระสงฆ์ผู้มาจากทิศทั้ง ๔ เข้าไปในวัดที่บรรพชนได้ทุ่มเทสร้างกันไว้


วิญญาณปู่ย่าตายายคงจะร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า


“ไอ้ลูกหลานจัญไร”




อนาคาริก
02/26/17




คนไทยมีปัญหากับการอ่านจริงหรือ?



คนไทยมีปัญหากับการอ่านจริงหรือ?

        เมื่อหลายปีก่อน ผู้เขียนได้พบข้อเขียนว่า คนไทยอ่านหนังสือกันโดยเฉลี่ยวันละ ๘ บรรทัด ก็อดจะหงุดหงิดไม่ได้

        เมื่อหลายเดือนก่อน ได้อ่านพบว่า การศึกษาของไทย อันดับร่วงจนอยู่ท้ายแถวในเอเชีย ตามหลังเวียดนาม กัมพูชา ก็รู้สึกเศร้าใจ

        เช้านี้อ่านพบคำพูดของผู้นำประเทศ ก็ได้ข้อคิดว่า ไม่น่าแปลกใจหากคนในชาติจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เพราะขนาดผู้นำ ยังอ่านหนังสือ “ไม่แตก”

        ทำไมผู้เขียนจึงพูดอย่างนั้น ก็ดูเอาแล้วกันนะ


        แล้วทราบไหมว่าลุงเขาพูดไง ดูอีกที



        นอกจากอ่านหนังสือไม่แตกแล้ว ยังปัดสวะเก่งซะด้วย ชาวบ้านเดือดร้อน ค้าขายไม่ได้ เด็กไปโรงเรียนไม่ได้ เพราะ ม.​๔๔ นี่แหละ 

        ช่วยอ่านหลาย ๆ เที่ยว แล้วทำตัวแมน ๆ รับผิดชอบหน่อยนะท่าน





อนาคาริก
02/26/17

ยุคทองของ DSI


ยุคทองของ DSI



        ไม่ว่ายุคใดสมัยใด หากหวังความก้าวหน้าในเส้นทางราชการก็ต้องอาศัยมีผู้สนับสนุน และแน่นอนที่สุด ก็ต้องมีการตอบแทนในการก้าวไปสู่จุดนั้น

        ตรงกันข้าม หากไม่สนองนโยบาย เส้นทางนั้นก็เป็นอันสิ้นสุด



        ณ วันนี้ การปลด ท่านพนม ศรศิลป์ จาก ผ.อ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แล้วแต่งตั้งคนของ DSI เข้ามาทำหน้าที่แทน คงจะบอกอะไรได้หลาย ๆ อย่าง



        ท่านพนม เป็นชาวพุทธที่รักพระพุทธศาสนา มีความเคารพพระ มีความนอบน้อมต่อพระรัตนตรัย เมื่อรับภารกิจมาจึงทำด้วยความระมัดระวัง ทำให้ไม่เป็นที่ถูกใจของเจ้านายที่ต้องการให้เล่นงานพระ

        ยุทธการเปลี่ยนหัวเพื่อให้บรรลุผล จึงเกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้
 

        ก็คงต้องจับตาดูว่า ภายใต้การกางตาข่ายด้วยฝีมือของ DSI ทั้งจากกระทรวงยุติธรรม คลุมมาถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะเป็นอย่างไร





        อย่างไรเสียก็อย่าลืมตรวจตรากล้องวงจรปิดให้ดี เผื่อจะมีการใช้ถุงเท้ากับบานพับ แถว ๆ นี้บ้างนะครับ




อนาคาริก
02/26/17

Friday, February 24, 2017

ชัดยิ่งกว่าชัด



ชัดยิ่งกว่าชัด

        จะมีอะไรชัดเจนมากกว่านี้อีกไหมครับ 

        ก็จะอะไรหล่ะ หากไม่ใช่เพราะคำพูดจากปากของท่านนายกฯ




        หายสงสัยกันแล้วนะครับ ว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือ การต้องการเข้ามาบริหารจัดการวัด หรือถ้าจะพูดตรง ๆ ก็คือ จะเข้ามาเอารูปหล่อทองคำนั่นเอง

         คิดบ้างไหมว่า กว่าสาธุชนเขาจะรวบรวมทองคำได้ ๑ ตัน เขาต้องใช้ความเพียรพยายามประกอบด้วยศรัทธามากแค่ไหน จู่ๆ จะมาเอารูปหล่อทองคำไปซะนี่

         สำหรับผู้เขียนคงบอกได้คำเดียวว่า

ข้ามศพกรูก่อนนะมรึง



อนาคาริก
02/25/17




     

รัฐบาลกลัวอะไร



รัฐบาลกลัวอะไร

        เรื่องนี้ตอบได้ง่ายมาก...กลัวความจริงครับ ผู้เขียนไม่ได้พูดแบบมีอคติ แต่ประเมินจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่วัดพระธรรมกาย

        รัฐบาลอาศัยสื่อที่มีอยู่ในมือ ให้ข่าววัดที่เป็นเชิงลบมาตลอด แต่กระนั้น วัดก็มีช่องทางในการนำเสนอความจริง

        เมื่อสู้กันด้วยความจริงสู้ไม่ได้ มาตรการล่าสุดจึงต้องเป็นการตัดสัญญาณโทรศัพท์ อินเตอร์เนต

        นี่คือตัวอย่างที่สื่อถูกสั่งให้นำเสนอ


เชื่อไหมครับว่า พระ 500 รูป?

ต่อไปดูภาพที่เป็นความจริงนะครับ


         ก็ต้องดูกันต่อไปว่า ระหว่างความจริงกับความเท็จ ใครจะชนะ
แต่สำหรับชาวพุทธที่แท้จริงแล้ว เชื่อมั่นเสมอว่า 

        ในที่สุด ความจริงหรือสัจจะจะต้องชนะอย่างแน่นอน




อนาคาริก
02/25/17

Sunday, February 12, 2017

เล่นอะไรกัน...เมืองไทย



เล่นอะไรกัน...เมืองไทย

        ผู้เขียนได้รับข้อความจากไลน์ของเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศส่งมาด้วยความดีใจว่า มีภาพดี ๆ ที่เกิดขึ้นที่เมืองไทย ทำให้เขารู้สึกปลื้มใจว่า สื่อต่างประเทศที่มาทำข่าวต่างก็กล่าวกันว่า อัศจรรย์กับภาพที่เกิดขึ้น จึงรีบกดเข้าไปตามลิงค์ที่เพื่อนให้มา 



แล้วก็ปรากฏข้อความดังนี้


        ด้วยความแปลกใจว่า เอ มันมีปัญหาอะไร ก็เลยลองส่งลิงค์ไปให้เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็มีผลเช่นเดียวกัน เลยต้องขอให้เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศแคปภาพส่งมาว่าคือ ภาพอะไรแน่ แล้วเพื่อนก็ส่งภาพมาให้ดังนี้





        เมื่อได้รับภาพคำถามที่เกิดขึ้นในใจจนอยากตะโกนออกมาคือ

        ๑. เนื้อหาตรงไหนที่ไม่เหมาะสม

        ๒. ข้อมูลตรงไหนที่ไม่เหมาะสม

        ๓. คนที่ห้ามใช้มาตรฐานอะไรตัดสิน

        หรือว่าเพราะนี่คือ ภาพของวัดพระธรรมกาย จึงมีอคติใช่หรือไม่ หากเป็นวัดอื่นจะมีปัญหาแบบนี้หรือไม่

        ก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่ภาพดี ๆ แบบนี้กลับถูกปิดกั้น แทนที่จะให้เยาวชนได้เห็นภาพดี ๆ ท่านคงอยากจะให้มีแต่ภาพที่ทำให้ลุ่มหลงมัวเมาอยู่ในกระแสกิเลสกระมัง

เศร้าจัง...ประเทศไทย




อนาคาริก
02/12/17


Friday, February 10, 2017

ตามล่า...วัสสการพราหมณ์



ตามล่า...วัสสการพราหมณ์


        เมื่อเอ่ยถึงวัสสการพราหมณ์ แน่นอนว่า ทุกท่านจะต้องนึกถึงคนที่ทำให้เกิดการแตกแยกในกลุ่ม ในหมู่ ในคณะ ซึ่งความจริงแล้ว การที่จะทำให้หมู่คณะขาดความสามัคคี ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่าย ๆ หากหมู่คณะใด ยึดมั่นในคุณธรรมที่สำคัญคือ

        ๑. มีความเคารพ เชื่อมั่นในผู้นำ คณะกรรมการหรือผู้ใหญ่ในที่นั้น ๆ

        ๒. มีวินัย ว่าอย่างไรว่าตามกันตามธรรมและวินัยของหมู่คณะ

        ๓. มีความอดทน ไม่ถือเอาความคิดตนเป็นใหญ่


        หากเราได้ศึกษาจากประวัติศาสตร์จีนหรือกลยุทธสามก๊กก็ตาม ซุนหวู่ก็ตาม จะเห็นว่า เมื่อจะเข้าตีเมืองแห่งใด ก็ต้องไปศึกษาว่า เมืองนั้นมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร จึงมีคำกล่าวว่า “ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ซึ่งวิธีการในการจะเข้าไปทำลายก็จะแตกต่างกันออกไป บางครั้งก็ใช้กำลังทหาร บางครั้งก็ใช้วิธีการทูต บางครั้งก็ใช้แผนเอาหญิงงามเข้าล่อ เป็นต้น


        ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระเจ้าอชาติศัตรู ต้องการยกทัพไปปราบกษัตริย์ลิจฉวี ก็พบว่า จุดแข็งของกษัตริย์ลิจฉวี คือ ความสามัคคี โดยยึดหลักอปริหานิยธรรม ซึ่งกล่าวโดยสรุป คือ การให้ความเคารพในการประชุม และเคารพในผู้หลักผู้ใหญ่



        เมื่อพบจุดแข็งดังนี้ บทบาทเด่น จึงมาตกที่วัสสการพราหมณ์ โดยดำเนินแผนเป็นขั้นตอน


        ๑. ยอมเจ็บตัว ให้ถูกโบยตี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ พูดง่าย ๆ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คือ ต้องให้อีกฝ่าย เกิดความตายใจ เชื่อใจให้ได้



        ๒. เข้ามาตีสนิทกับกลุ่มของกษัตริย์ลิจฉวี จนได้รับความไว้วางใจ ให้สอนหนังสือราชโอรส ถ้ายุคนี้ก็คงจะเป็นการเข้ามาตีสนิทกับสมาชิกในกลุ่มบุคคลต่าง ๆ



        ๓. เมื่อสนิทมากเข้า ก็เริ่มแผนขั้นต่อไปคือ การใส่ข้อมูล ให้เกิดความระแวงกัน ไม่ไว้ใจกันในกลุ่มต่าง ๆ จนกระทั่งมองกันแบบจับผิด จนขาดคุณธรรมสำคัญเบื้องต้น คือ ความเคารพ ความมีวินัย และความอดทน


        ๔. เมื่อความหวาดระแวงกระจายออกไปสู่วงกว้าง ในที่สุดก็บรรลุวัตถุประสงค์ องค์กรนั้นก็จะสลายไป สมประสงค์ของวัสสการพราหมณ์


        ดังนั้นองค์กรใดก็ตามที่ต้องการรักษาความมั่นคง ความเป็นปึกแผ่น จะต้องรักษาความสามัคคีให้ดี ช่วยกันสอดส่อง คอยสังเกตดูพฤติกรรมของวัสสการพราหมณ์ ที่สำคัญคือ พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างโดยอาศัยหลักอปริหานิยธรรม และนำเอาเหตุการณ์ในอดีตมาเป็นเครื่องเตือนใจ จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของใคร


        หากทำได้อย่างนี้ต่อให้มีวัสสการพราหมณ์เป็นร้อยก็ไม่สามารถจะสั่นคลอนองค์กรนั้น ๆ ได้








อนาคาริก
02/10/17